เครื่องควบคุมรั้วไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านรั้วไฟฟ้า IEC 60335-2-76 นั้น มักจะปล่อยไฟออกจากตัวเครื่องเหมือนๆกัน อยู่ที่ราวๆ 8,000 - 10,000 V ครับ ดังนั้นสายไฟที่ใช้โยงจากตัวเครื่องไปยังรั้วไฟฟ้า (Lead Out) หรือใช้เพื่อการเชื่อมต่อแนวรั้วไฟฟ้าแต่ละแนวนั้น ควรใช้สายที่มีความเป็นฉนวนมากเพียงพอที่จะต้านทานโวลท์สูงๆ แบบนี้ได้ครับ
ข้อเสียของการใช้สายไฟบ้านกับงานรั้วไฟฟ้า
1) สายไฟบ้านทั่วไปนั้นๆ มักจะออกแบบกับแรงดันไฟฟ้า (โวลท์) สำหรับไฟบ้านทั่วไป โดยมากแล้วมักจะไม่เกิน 1,000 V ครับ ทำให้มีความเป็นฉนวนไม่เพียงพอกับงานรั้วไฟฟ้า เมื่อสายไฟเหล่านี้พาดไปตามเสา,ผนังบ้าน หรือแม้กระทั่งร้อยอยู่ในท่อก็ตาม ก็จะทำให้เกิดไฟรั่วได้ครับ ทำให้ประสิทธิภาพของรั้วไฟฟ้าเราลดลงตั้งแต่ต้นทางเลยทีเดียว
2) มีโอกาสทำให้ขั้วของเครื่องควบคุมรั้วไฟฟ้าและลวด เกิดสนิม ผุกร่อนได้ เนื่องจากสายไฟที่ใช้สายไฟบ้านนั้นมักทำจากทองแดง แต่ขั้วของเครื่องควบคุมรั้วไฟฟ้าและลวดรั้วไฟฟ้าที่เราใช้นั้นมักเป็นเหล็ก เหล็กและทองแดงนั้นไม่ถูกกันนะครับ เมื่อทองแดงอยู่ใกล้กับเหล็กจะเหนี่ยวนำให้เหล็กนั้นเกิดสนิมง่ายขึ้นครับ
จากเหตุผล 2 ข้อนี้ จึงไม่แนะนำให้ใช้สายไฟบ้านมาใช้กับงานรั้วไฟฟ้าครับ
ข้อดีของการใช้สายรั้วไฟฟ้าหุ้มฉนวนสำหรับงานรั้วไฟฟ้า
1) มีความเป็นฉนวนมากเพียงพอ โดยออกแบบสำหรับโวลท์สูงๆ สำหรับงานรั้วไฟฟ้าโดยตรง มักมีความต้านทานรั้วไฟฟ้าได้มากกว่า 10,000 V ขึ้นไป ทำให้เวลาที่เราเดินสายไปตามเสา, ผนัง หรือร้อยท่อก็ตาม ไฟก็จะไม่รั่วครับ ทำให้รั้วไฟฟ้าเรามีประสิทธิภาพที่ดีตั้งแต่ต้นทางเลยครับ
2) ลวดที่อยู่ด้านในของสายรั้วไฟฟ้าหุ้มฉนวนนั้นมักทำจากเหล็ก ซึ่งเป็นวัสดุชนิดเดียวกันกับลวดและขั้วของเครื่องควบคุมรั้วไฟฟ้า ทำให้ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการกัดกร่อน เป็นสนิมได้ครับ
จากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เราจึงควรเลือกใช้สายรั้วไฟฟ้าหุ้มฉนวนกับงานรั้วไฟฟ้ากันนะครับ เพื่อให้รั้วไฟฟ้าของเรามีประสิทธิภาพที่ดีตั้งแต่ต้นทางครับ
สามารถดูข้อมูลสินค้าสายรั้วไฟฟ้าหุ้มฉนวน Speedrite จากประเทศนิวซีแลนด์ได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
สายรั้วไฟฟ้าหุ้มฉนวน Speedrite